ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง ตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ก่อตั้งโดย ดร. วิวัฒน์ ศัลยกำธร หรือ อาจารย์ยักษ์
เรา ตูน และน้องอ้อม เดินทางจากสมุทรปราการมายัง ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง มาถึงเวลา 9 โมงเช้า ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าอาจารย์ยักษ์ไม่อยู่ เสียดายจัง
ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร เป็นประธานสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง
เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวลงสู่การปฏิบัติโดยมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนามนุษย์ ในขณะเดียวกันภารกิจสำคัญอีกประการได้แก่การขับเคลื่อน “หลักกสิกรรมธรรมชาติ” ผ่านการบ่มเพาะหลักคิดและหลักปฏิบัติผ่าน “ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง” จังหวัดชลบุรี ศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิตที่แสดงผลสัมฤทธิ์ของการนำศาสตร์พระราชาด้านการจัดการดิน น้ำ ป่า มาฟื้นฟูระบบนิเวศจนสามารถพลิกฟื้นดินดานสร้างระบบนิเวศที่สมดุลต่อระบบการผลิตภาคการเกษตร พัฒนาสู่ชุมชนที่ดำเนินวิถีชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ขยายผลสู่การสร้างแบบอย่างใหม่ของการศึกษาวิถีไทยในอนาคตด้วยการนำ “บวร-บ้าน วัด โรงเรียน” กลับสู่การบ่มเพาะเด็กและเยาวชนให้มีคุณธรรมนำความรู้ ในนาม “ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย” ต้นแบบศูนย์การเรียนรู้ตามกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิของบุคคลในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน (wikipedia)
ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าสำนักงาน คือ ต้นตะเคียน
ตามรอยพระราชดำริ
อาจารย์ยักษ์ได้เคยกล่าวไว้ว่า “สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพยายามทำ ท่านทรงงานหนักมาตลอดชีวิตของพระองค์ท่าน ทั้งทรงดำริ ทรงศึกษาหาข้อมูล ค้นคว้า และทดลอง แท้จริงแล้วไม่ใช่เพื่อใคร เพื่อประชาชนคนไทยทุกคน เพื่อให้ประชาชนได้มีอากาศบริสุทธิ์ มีอาหารที่กินแล้วร่างกายแข็งแรง มีที่อยู่อาศัย มีสิ่งแวดล้อมที่อยู่แล้วมีความสุข ร่มเย็น เพียงพอสำหรับทุกคน อาจารย์ยักษ์จึงอยากให้ทุกคนได้เรียนรู้ในสิ่งที่พระองค์ท่านทำ และสร้างไว้”
ประวัติความเป็นมาของศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง
พระองค์ท่านทรงเน้นให้ประชาชน และเกษตรกรรู้จักพึ่งตนเอง จึงได้พระราชทานแนวคิดเรื่อง “ทฤษฎีใหม่เศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อเป็นหลักคิดให้กับทุก ๆ คน ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อาจารย์วิวัฒน์ ศัลยกำธร จึงได้รวบรวมกลุ่มคนในหลาย ๆ อาชีพ ที่มีแนวคิด แนวอุดมการณ์ ในการที่จะฟื้นฟูประเทศ โดยการนำแนวคิดเรื่องทฤษฎีใหม่ เศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ ให้ใช้กับการทำการเกษตร และการดำรงชีวิตให้อยู่รอดได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งการรณรงค์ให้เกษตรกรเลิกใช้สารเคมี หยุดการพึ่งพาชาติตะวันตกและหันกลับมาพึ่งพาตนเอง โดยใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่เคยสืบทอดกันมาเพื่อเน้นการทำเกษตรที่ยั่งยืนบนผืนแผ่นดินไทย
หลักสูตร การอบรม
ผู้เข้าฝึกอบรมจะได้รับวุฒิบัตร เมื่อจบหลักสูตร การฝึกอบรมมีตั้งแต่ 2 วัน จนถึง 5 วัน ได้เรียนกันอย่างรู้ลึกรู้จริง เช่น การเกษตรแบบพอเพียง เกษตรอินทรีย์ ทำแชมพูสมุนไพร ฯลฯ ความรู้เหล่านี้นำไปใช้ต่อได้ สามารถติดต่อได้ที่ 0818639703
9 ฐานเรียนรู้
ที่นี่แบ่งเป็น 9 ฐานการเรียนรู้
- คนรักษ์แม่ธรณี
“…การปรับปรุงที่ดินนั้น ต้องอนุรักษ์ผิวดินซึ่งมีความสมบูรณ์ไว้ ไม่ให้ไถหรือลอกหน้าดินทิ้งไปสงวนไม้ยืนต้นที่ยังเหลืออยู่ เพื่อที่จะรักษาความชุ่มชื้นของผืนดิน…”
พระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เกี่ยวกับการอนุรักษ์ดิน - คนรักษ์ป่า
“…สมควรที่จะปลูกแบบป่าสําหรับใช้ไม้หนึ่ง ป่าสําหรับใช้ผลหนึ่ง ป่าสําหรับใช้เป็นฟืนอย่างหนึ่ง อันนี้แจกออกไปเป็นกว้างๆ ใหญ่ๆ การที่จะปลูกต้นไม้ สําหรับได้ประโยชน์ดังนี้ ในคําวิเคราะห์ของกรมป่าไม้ รู้สึกว่าจะไม่ใช่ป่าไม้ จะเป็นสวนมากกว่าเป็นป่าไม้ แต่ว่าในความหมายของการช่วยเพื่อต้นน้ําลําธารนั้น ป่าไม้เช่นนี้จะเป็นสวนผลไม้ก็ตาม หรือเป็นสวนไม้ฟืน ก็ตาม นั่นแหละเป็นป่าไม้ที่ถูกต้อง เพราะทําหน้าที่ เป็นป่า คือเป็นต้นไม้และทําหน้าที่เป็นทรัพยากร ในด้านสําหรับเป็นผลที่มาเป็นประโยชน์ แก่ประชาชนได้…”
พระราชดํารัสบางตอนเกี่ยวกับป่า 3 อย่าง โยชน์ 4 อย่าง ณ โรงแรมรินคํา จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 7 มกราคม 2523 - คนรักษ์น้ำ
“…หลักสําคัญว่า ต้องมีน้ํา น้ําบริโภคและน้ําใช้ น้ําเพื่อการเพาะปลูก เพราะชีวิตอยู่ที่นั่น ถ้ามีน้ําคนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ํา คนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้า คนอยู่ได้ แต่ถ้ามีไฟฟ้า ไม่มีน้ํา คนอยู่ไม่ได้…”
พระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 17 มีนาคม 2539 - คนรักษ์แม่โพสพ
“…ขอบใจที่นําสิทธิบัตรนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการประกันว่า การข้าวไทยเป็นของไทยแท้ ซึ่งคนหนักใจว่า เราเป็น ข้าวไทยมานานแล้วจะกลายเป็นต้องไปกินข้าวฝรั่ง เพราะว่าสิทธิบัตรนี้เป็นของฝรั่ง แต่ว่ามาอย่างนี้ ก็ถือว่า เป็นว่าเราได้รับประกันว่าเราเป็นข้าวไทย และจะกิน ข้าวไทยต่อไป ฉะนั้นการที่มีสิทธิบัตรนี้ ก็เป็นสิ่งที่สําคัญ และก็หวังว่า จะต้องทุกคนจะรักษาความเป็นไทยได้ด้วย รับประทานกินข้าวไทย ไม่ต้องกินข้าวฝรั่ง…”
พระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระตําหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2552 - คนเอาถ่าน
“…แต่ป่าไม้ที่จะปลูกนั้น สมควรที่จะปลูกแบบป่าสําหรับ ใช้ไม้หนึ่ง ป่าสําหรับใช้ผลหนึ่ง ป่าสําหรับใช้เป็นฟืน อย่างหนึ่ง อันนี้แยกออกไปเป็นกว้างๆ ใหญ่ๆ การที่จะ ปลูกต้นไม้สําหรับได้ประโยชน์ดังนี้ ในคําวิเคราะห์ของ กรมป่าไม้ รู้สึกว่าจะไม่ใช่ป่าไม้ เป็นสวนหรือจะเป็นสวน มากกว่าเป็นป่าไม้ แต่ว่าในความหมายของการช่วยเพื่อ ต้นน้ําลําธารนั้น ป่าไม้เช่นนี้จะเป็นสวนผลไม้ก็ตาม หรือ เป็นสวนไม้ฟืนก็ตาม นั่นแหละเป็นป่าไม้ที่ถูกต้อง เพราะ ทําหน้าที่เป็นป่าคือเป็นต้นไม้ และทําหน้าที่เป็นทรัพยากร ในด้านสําหรับเป็นผลที่มาเป็นประโยชน์แก่ประชาชนได้…”
พระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เกี่ยวกับการพัฒนาป่าไม้ เมื่อปี พ.ศ. 2523 - คนรักษ์สุขภาพ
“ร่างกายของเรานั้น ธรรมชาติสร้างมาสําหรับให้ออก แรงใช้งาน มิใช่ให้อยู่เฉยๆ ถ้าใช้แรงให้พอเหมาะพอดี โดยสม่ำเสมอ ร่างกายก็เจริญแข็งแรง คล่องแคล่ว และคงทนยั่งยืน ถ้าไม่ใช้แรงเลยหรือใช้ไม่พียงพอ ร่างกาย ก็จะเจริญแข็งแรงอยู่ไม่ได้แต่จะค่อยๆ เสื่อมไปเป็นลําดับ และหมดสมรรถภาพไปก่อนเวลาอันสมควร ดังนั้น ผู้ที่ ปกติทําการงานโดยไม่ได้ใช้กําลังหรือใช้กําลังแต่น้อย จึงจําเป็นต้องหาเวลาออกกําลังกาย ให้พอเพียง กับความต้องการตามธรรมชาติเสมอทุกวัน มิฉะนั้น จะเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ที่เขาจะใช้สติปัญญาความ สามารถของเขาทําประโยชน์ให้แก่ตนเอง และแก่ส่วนรวมได้น้อยเกินไป เพราะร่างกายอัน กลับกลายอ่อนแอลงนั้น จะไม่อํานวยโอกาส ให้ทําการงานโดยมีประสิทธิภาพได้”
พระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช - คนมีไฟ
“…น้ํามันปาล์มทราบว่าดีเป็นน้ํามันที่ดีใช้งานได้ ใช้บริโภคแบบใช้น้ํามันมาทอดไข่ได้ มาทําครัวได้ เอาน้ํามันปาล์มมาใส่รถดีเซลได้ กําลังของน้ํามันปาล์มนี้ดีมากได้ผล เพราะว่าเมื่อได้มาใส่รถดีเซล ไม่ต้องทําอะไรเลย ใส่เข้าไป แล่นไป คนที่แล่นตามบอกว่าหอมดี…”
พระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช - คนมีน้ำยา
“…การจะเป็นเสือนั้นไม่สําคัญ สําคัญอยู่ที่เรามีเศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกินนั้นหมายความว่าอุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตัวเอง อันนี้ก็เคยบอกว่า ความพอเพียงนี้ไม่ได้หมายความว่า ทุกครอบครัวจะต้องผลิตอาหารของตัว จะต้องทอผ้าใส่เอง อย่างนั้นมันเกินไป แต่ว่าในหมู่บ้านหรือในอําเภอ จะต้องมีความพอเพียงพอสมควร บางสิ่งบางอย่างที่ผลิตได้มากกว่าความต้องการ ก็ขายได้ แต่ขายในที่ไม่ห่างไกลเท่าไหร่ ไม่ต้องเสียค่าขนส่งมากนัก…”
พระราชดํารัสพระราชทานแก่บุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดาฯ พระราชวังดุสิต วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม 2550 - คนติดดิน
“…ฉันพูดเศรษฐกิจพอเพียงความหมายคือ ทําอะไรให้ เหมาะสมกับฐานะของตัวเอง คือทําจากรายได้ ๒๐๐-๓๐๐ บาท ขึ้นไปเป็นสองหมื่น สามหมื่นบาท คนชอบเอาคําพูดของฉัน เศรษฐกิจพอเพียงไปพูดกัน เลอะเทอะ เศรษฐกิจพอเพียง คือทําเป็น Self-Sufficiency มันไม่ใช่ความหมายไม่ใช่แบบที่ฉันคิด ที่ฉันคิดคือเป็น Self-Sufficiency of Economy เช่น ถ้าเขาต้องการดูทีวี ก็ควรให้เขามีดู ไม่ใช่ไปจํากัดเขาไม่ให้ซื้อทีวีดู เขาต้องการดูเพื่อความสนุกสนาน ในหมู่บ้านไกลๆ ที่ฉันไป เขามีทีวีดูแต่ใช้แบตเตอรี่ เขาไม่มีไฟฟ้า แต่ถ้า Sufficiency นั้น มีทีวีเขาฟุ่มเฟือย เปรียบเสมือนคนไม่มี สตางค์ไปตัดสูทใส่ และยังใส่เนคไทเวอร์ซาเช่ อันนี้ก็เกินไป…”
พระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระตําหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล 17 มกราคม 2544
ศูนย์ปฏิบัติธรรมมาบเอื้องเพื่อเศรษฐกิจพอเพียง
เดินมาเยี่ยมชมการก่อสร้าง พระมหาธาตุเจดีย์ 2,600 ปี พุทชยันตีเฉลิมราช ซึ่งภายในเป็นที่ประดิษฐานพระประธานองค์ใหญ่ คือ พระพลังแผ่นดิน
พระพลังแผ่นดิน
ภายในพระมหาธาตุเจดีย์ฯ ได้ร่วมกันออกแบบพระพลังแผ่นดินเป็นพระประธานใหญ่ โดยนำดินมาจากทั่วโลกและ 77 จังหวัดของไทย มาปั้นเป็น “พระพลังแผ่นดิน”
จากนั้นเราเดินกลับมายังร้านขายสินค้าภายในศูนย์
ซื้อของมาเต็มเลย และก็หนังสือพระราชนิพนธ์ ‘พระมหาชนก’ ด้วย
พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีประโยชน์อย่างมหาศาลกับอาณาประชาราช ถึงแม้ท่านจะเสด็จสู่ฟากฟ้าสุราลัย แต่พระมหากรุณาธิคุณจารึกในใจไทยชั่วกาล
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง
โทร. 038-263078
ที่อยู่ เลขที่ 114/1 ม.1 ต.หนองบอนแดง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี 20170
Facebook: facebook.com/mabeaeng
The photographs may not be copied, reproduced, redistributed, manipulated, projected, used or altered in any way without the prior express written permission of Juth.Net
Pingback: แซ่บ สะออน โดย อี้ดโปงลางสะออน บางละมุง