บ้านสุขาวดี เปิดกว้างขึ้นด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการให้ผู้มีโอกาสได้มาสัมผัสเป็นเจ้าของร่วมกันและได้ค้นพบถึงสัจธรรมในการดำเนินชีวิต พร้อมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายที่ควรสักการะ
หลังจากทานอาหารที่ ร้านแซ่บ สะออน กันแล้ว เราก็กลับรถ เดินทางมายัง บ้านสุขาวดี มาถึงเวลาประมาณ 12.30 น. แดดกำลังแรงเลย ขนาดว่าวันนี้อากาศเหมือนจะเย็นๆ แล้ว ยังรู้สึกว่าร้อนมาก
“สุขาวดี” แปลว่า ดี ขาวดี สีของบ้าน เป็นสีชมพูและ ฟ้า สีชมพูเป็นสีแห่งความรัก ดั่งที่ว่า “ ที่ใดไร้รักสมัครสมานจะทำการสิ่งใดย่อมไร้ผล” ฉะนั้นที่ใดก็ตามที่มีความรัก ความสามัคคี มีความกลมเกลียวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่นั่นเขาจะคุยกันแต่เรื่องดีๆ คุยสิ่งสร้างสรรทั้งสิ้น
ประวัติบ้านสุขาวดี
จากวิกฤติทางเศรษฐกิจ ต่างชาติได้ยึดกิจการของคนไทย เพื่อให้เห็นว่าคนไทยมีศักยภาพไม่แพ้ต่างชาติ ทำให้เกิดปาฏิหาริย์สร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นศักดิ์ศรีของคนไทย บ้านสุขาวดี จึงได้เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี 2543 บนเนื้อที่ 12 ไร่ ติดถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ 129 ห่างจากที่ว่าการอำเภอบางละมุง ประมาณ 1 กิโลเมตร มีชายหาดยาว 400 เมตร ปัจจุบันมีเนื้อที่กว่า 80 ไร่
สุขาวดีเกิดมาจากสติปัญญาและการทำงานเป็นทีม ของผู้คนบนพื้นฐานของความรัก ความสามัคคี จึงทำให้งานที่ออกมามีคุณค่า สง่างามและมีความสำคัญเท่าเทียมกัน (ข้อมูลจาก sukhawadee.com)
“ผมเอาไว้เป็นบ้าน เพื่อให้คนไทยใช้อ้างอิงได้ในโลกนี้ว่านี่เป็นบ้านของคนไทย”
ดร.ปัญญา โชติเทวัญ
พอขับรถเข้ามาในบริเวณบ้านสุขาวดี ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จะนำทางให้ท่านมาสู่จุดจำหน่ายบัตรเข้าชม ค่าเข้าชมคนละ 180 บาท จากนั้นก็จะสามารถเข้าสู่บริเวณลานจอดรถ แล้วเดินมายังทางเข้า แสดงบิลเงินสด และบัตรเข้าชมที่รัดไว้ที่ข้อมือ
น้ำอ้ำ (น้ำข้าว)
เมื่อผ่านเข้าประตู จะพบกับจุดแจกน้ำ น้ำอ้ำ (น้ำข้าว) มีที่มาจากพระแม่โพสพ (เทวีแห่งข้าว) แต่กว่าจะเป็นพระแม่โพสพ ต้องอาศัยพระแม่ธรณี (ดิน) ให้ที่พักพิง ให้มีที่อยู่อาศัย ให้สิ่งมีชีวิตได้เจริญเติบโตแต่กว่าจะเติบโตมาได้ ต้องอาศัยพระแม่คงคา (น้ำ) สร้างความชุ่มชื้น นำพาสารอาหารเข้าไปหล่อเลี้ยงและกว่าจะเป็นสารอาหารที่ทรงคุณค่าได้ก็มี แม่พระเพลิง (ไฟ) ที่ให้พลังงาน แปรเปลี่ยนสารอาหาร ให้สิ่งมีชีวิตเกิดการขับเคลื่อนเกิดพลัง เมื่อเจริญเติบโตแล้ว สิ่งที่ไร้คุณค่าก็จะถูกขับถ่าย ซึ่งต้องอาศัย แม่พระพาย (ลม) นำสิ่งบริสุทธิ์เข้ามา อันได้แก่อากาศ เข้ามาแทนที่ ผู้ที่เรียนรู้ในความอยู่รอดของสรรพสิ่งมีชีวิตทั้งหมด รวมถึงมนุษย์ รวมถึงเรียนรู้ที่จะเคารพและบูชา ก็มักจะเจริญรุ่งเรือง
เมื่อผ่านตรงนี้ไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาแนะนำว่า เราสามารถไปสักการะเจ้าแม่กวนอิมได้ที่ชั้น 6 โดยการขึ้นลิฟต์ไป และหลังจากนั้นสามารถนั่งรถไปยังอีกอาคารได้
อาคารพระแม่กวนอิม
อาคารพระแม่กวนอิม เป็นอาคารที่พักอาศัยของ ครอบครัวโชติเทวัญ ชั้นดาดฟ้าเป็นที่ ประดิษฐานของพระแม่กวนอิม ปางประทานพรประทับบนมังกร ซึ่งประกอบด้วยอัญมณีล้ำค่าที่ ดร. ปัญญา โชติเทวัญ และครอบครัวเคารพนับถือใน ความศักดิ์สิทธิ์ สักการะด้วยดอกบัวทองคำ ประดับรัตนชาติ
จากนี้เราขึ้นรถ shuttle มายังอาคารอาคารพุทธบารมี
อาคารพุทธบารมี
เริ่มก่อสร้างในปี 2546 โดยโครงสร้างของอาคารประชุมใช้เวลาสร้าง 1 ปี ส่วนการตกแต่งภายในทั้งอาคาร ใช้เวลาเพียง 30 วัน บนพื้นฐานของความรัก และความสามัคคีของคน 2,700 ชีวิต ปัจจุบันเป็นที่ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และได้รับเกียรติเป็นสถานที่ต้อนรับ บุคคลสำคัญ และจัดงานระดับประเทศมากมาย
บรรยากาศโดยรอบ
บรรยากาศอันสวยงามกว่า 85 ไร่ ณ บ้านสุขาวดี ตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้สวยงาม และท่านยังสามารถใช้บริการรถกอล์ฟชมวิวโดยรอบบ้านสุขาวดี
บ้านสุขาวดี
โทร. 038-703184 ,089-813-2962
บ้านเลขที่ 219 หมู่ 2 ถนนสุขุมวิท ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 20150
Website: www.sukhawadee.com
Facebook: www.facebook.com/baansukhawadee
The photographs may not be copied, reproduced, redistributed, manipulated, projected, used or altered in any way without the prior express written permission of Juth.Net
Pingback: รีวิว: ร้าน The Glass House พัทยา