มาเชียงใหม่ครั้งนี้ เราพักกันแถวนิมมานฯ ทำเลทองของนักชิมนักช้อปอย่างเรา ท่ามกลางอากาศร้อนๆ ยามบ่าย สิ่งที่พลาดไม่ได้ คือ หาคาเฟ่สวยๆ แอร์เย็นๆ ให้เราหลบแดด และหลีกน้ำสงกรานต์ด้วย
The Barisotel by The Baristro
เราก็เริ่มด้วยการค้นหาจากกูเกิ้ล มีรายชื่อร้านกาแฟ บนถนนนิมมาน ที่แนะนำมากมาย เราเลือกร้าน The Barisotel by The Baristro นิมมาน ซอย 9 ใกล้ๆ ร้านมีที่จอดรถเอกชนอยู่ ค่าจอด 50 บาท
จอดรถแล้วร้านเป็น Townhouse ห้องแรกทางขวามือค่ะ ตัวอาคารทาสีขาว ภายในอาคารตกแต่งแบบ Minimal สีขาวอีกเช่นกัน สวยมาก เหมาะกับการถ่ายรูปสวยๆ ค่ะ
เจ้าของร้านนี้ เป็นเจ้าของ Roti Guu ด้วยค่ะ ในเมนูจึงมีโรดีฝอยทอง Signature ของโรตีกูมาเสิร์ฟด้วยค่ะ ตอนเข้าไปครั้งแรกไม่รู้ ลองถามพนักงานว่าแนะนำอะไรดีคะ น้องพนักงานผู้ชาย ให้บริการดีค่ะ แนะนำกาแฟไนโตรลิ้นจี่ให้เลือกชิม อีกแก้วเป็น Guu’s Coffee (ชานมเย็นราดกาแฟช็อต) อร่อยดีค่ะ ขนมน้องก็แนะนำหลายอย่าง Signature ที่เป็นของร้าน แต่เราเลือก Tiramisu กับ Cranberry Scone
กาแฟไนโตรลิ้นจี่ เป็นกาแฟสกัดเย็น คั่วอ่อน ไม่ขมมาก ใส่น้ำเชื่อมลินจี่เปรี้ยวๆ นิดนึง เสิร์ฟเย็น น้ำแข็งก่อนใหญ่ ก้อนเดียว พร้อมเนื้อลิ้นจี่ อารมณ์คล้ายๆ ม็อคเทลค่ะ
Guu’s Coffee ชาเย็นราดกาแฟ เป็นชาเย็นที่อร่อยมาก ไม่หวานเพราะโดนรสขมของกาแฟตัดลงค่ะ
ขนมทิรามิสุ ไม่หวานมาก รสขมของกาแฟกำลังดี สโคนเสิร์ฟพร้อมแยมและคอตเต็ดครีม ที่น้องบอกว่า มีครีมสโคนเสิร์ฟครับ คือเรางงนิดนึงว่าครีมสโคนคืออะไร พอน้องมาเสิร์ฟก็ได้รู้ว่า อ้อ ก็ปกตินะคะ เสิร์ฟพร้อม Clotted Cream และ Jam อร่อยๆ ฟินไปอีกบ่ายค่ะ
อร่อยไม่อร่อย ก่อนกลับกรุงเทพ เราก็ไปซ้ำอีกรอบ แต่เปลี่ยนเมนูค่ะ คราวนี้สั่ง กาแฟเย็น The Black Coconut กับ ม็อคค่า The Baristo ขนมเป็นโรตีกรอบฝอยทอง จานเล็กค่ะ
The Black Coconut คือ น้ำมะพร้าวแล้วราดด้วยช็อตกาแฟค่ะ อร่อยไปอีกแบบ ส่วน Mocca ไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่ค่ะ โรตีกรอบไม่เสียชื่อโรตีกูเลยค่ะ อร่อยมาก ไม่ต้องไปสองร้าน มาที่นี่ก็กินได้ทั้งสองอย่าง ดีจังค่ะ
รอบสองเราเตรียมมานั่งนานค่ะ มีเวลา นั่งโซฟาชิวๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เพราะร้านแต่งด้วยสีขาว ทำให้รูปออกมาสวยไปหมดค่ะ