วัดใหญ่ชัยมงคลที่เรียกกันอยู่ในปัจจุบันมีชื่อที่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวข้องอยู่หลายชื่อ ได้แก่ “วัดใหญ่ชัยมงคล” “วัดใหญ่” “วัดป่าแก้ว” และ “วัดเจ้าพระยาไทย” จากที่ได้ตรวจสอบสรุปความได้ว่า ชื่อ “วัดใหญ่ชัยมงคล” ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีที่มาจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่า วัดนี้คือวัดที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชโปรดให้สร้างพระเจดีย์ขึ้นตามคำแนะนำของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะในการกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชแห่งพม่า โดยเจดีย์ที่ทรงสร้างขึ้นมีชื่อว่า “เจดีย์ชัยมงคล”
ส่วนชื่อ “วัดใหญ่” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียก ปรากฏใน พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในช่วงก่อนการเสียกรุงครั้งที่ 2 ว่า “ครั้น ณ เดือน 12 ในกรุงจึงแต่งทัพเรือให้พระยาตาก พระยาเพ็ชรบุรี หลวงศรเสนี ออกไปตั้งอยู่วัดใหญ่” (ข้อมูลจากหนังสือ “คู่มือนำชม ศิลปกรรมโบราณในอยุธยา” โดยศาสตราจารย์ ดร. ศักดิ์ชัย สายสิงห์)
จากทางเข้าของวัด เมื่อเดินเข้ามาทางด้านซ้ายมือจะพบกับพระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) ก่อนที่จะเดินไปถึงอุโบสถ ซึ่งที่ตั้งของอุโบสถในปัจจุบันนั้นเดิมทีเป็นวิหารหลวง
ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคล พระประธานของวัด
เจดีย์ประธาน
เจดีย์ประธานวัดใหญ่ชัยมงคลจัดเป็นเจดีย์ทรงระฆังที่มีส่วนฐานและส่วนรองรับองค์ระฆังในผังแปดเหลี่ยม เจดีย์กลุ่มนี้บางครั้งเรียก “เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม” มีองค์ประกอบโดยรวมเหมือนกับเจดีย์ทรงระฆังทั่วไป แต่มีลักษณะพิเศษที่แตกต่าง คือ การมีชุดรองรับองค์ระฆังที่เป็นฐานบัวคว่ำ-บัวหงาย 3 ชั้นในผังแปดเหลี่ยม ท้องไม้แต่ละชั้นประดับลูกฟัก 2 เส้น
ที่มาของเจดีย์กลุ่มนี้น่าจะมีสายวิวัฒนาการมาจากเจดีย์ล้านนาและอาจสืบต่อมาจากลุ่มเจดีย์ทรงปราสาทยอดที่มีเรือนธาตุแปดเหลี่ยม (ข้อมูลจากหนังสือ “คู่มือนำชม ศิลปกรรมโบราณในอยุธยา” โดยศาสตราจารย์ ดร. ศักดิ์ชัย สายสิงห์)
ขอบคุณหนังสือของอาจารย์ศักดิ์ชัย สายสิงห์ ที่ทำให้ได้รับความรู้มากมายในการชมวัดใหญ่ชัยมงคลในครั้งนี้ค่ะ
The photographs may not be copied, reproduced, redistributed, manipulated, projected, used or altered in any way without the prior express written permission of Juth.Net